ช่างตัดผม

ช่างตัดผม
สังเกตไหมว่าโลกเราปัจจุบันหมุนไปเร็วมาก  อาชีพเดิมๆ บางทีได้ล้มหายตายจากไป และมีอาชีพใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ อยู่ที่ว่าใครจะมีวิสัยทัศน์มากกว่ากัน   เช่น งานไปรษณีย์ ทุกวันนี้มีใครบ้างครับเขียนจดหมายใส่ซองติดแสตมป์ 3 บาท  การสื่อสารทุกวันนี้เป็นโซเซี่ยลเน็ตเวิร์กหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  Line,Facebook  ที่เราสามารถส่งข้อความหากันได้เพียงเสี้ยววินาที  หรืองานธนาคาร เพื่อความสะดวกของลูกค้า ธนาคารมีตู้ ATM และตู้รับฝากเงินสด ไว้ให้บริการลูกค้า พนักงานที่ทำหน้าที่เฉพาะส่วนนี้ก็ต้องนั่นลุ้นว่าเมื่อไหร่จะหลุดจากเก้าอี้  ส่วนพนักงานฝ่ายที่สำคัญที่ยังยึดเก้าอี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก็ได้แก่ ฝ่ายสินเชื่อ เพราะการพิจาณาคุณสมบัติสินเชื่อให้กับลูกค้า ต้องใช้การพิจารณาเป็นบุคคลๆ ไป 
             นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ หากจะหางานในรูปแบบเดิมๆ คงเป็นไปได้ยาก ไม่ใช่เขาไม่เก่ง แต่โลกมันเปลี่ยนไป เพราะเทคโนโลยี หรือเครื่องจักรเข้ามาแทนที่บทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้นนั่นเอง
               ฉะนั้นอาชีพที่ผมจะเขียนถึงมักจะเป็นอาชีพที่เครื่องจักรเข้ามาแทนที่มนุษย์ไม่ได้ครับ 
                คุณลองมองดูรอบๆ ตัวเราซิครับ งานอะไรบ้างที่เมื่อก่อนต้องจ้างคน  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว  นั่นหมายความคุณค่าของเราค่อยถูกเทคโนโลยีเหล่ากลืนไปทีละนิด ไม่ได้หมายความว่า เราไม่มีคุณค่านะครับ เรามีคุณค่าตั้งแต่วันแรกที่เราลืมตาดูโลกแล้ว แต่เมื่อโลกมันหมุนไปไม่ยอมหยุด เราก็ต้องปรับตัวให้ทันเพื่อที่เราจะได้ไม่ถูกลืม
                  เมื่อกี้พูดถึงเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่มนุษย์ใช่ไหมครับ  ผมขอยกตัวอย่างเลย เช่น  รถปลูกข้าว   ดำนา  รถเกี่ยวข้าว  รถปลูกอ้อย  รถปลูกมันสำปะหลัง  สิ่งเหล่านี้ส่งผลดีต่อเกษตรกรระดับนายทุน ที่ไม่ต้องวิ่งควานหาลูกจ้างให้เมื่อยอีกต่อไป แต่สำหรับเกษตรกรในระดับรากหญ้าที่ไม่มีทุน ต้องรอเขามาจ้างละครับ งานก็เริ่มน้อยลงใช่ไหมครับ
                  ยิ่งในร้านเซเว่นด้วยแล้วละครับ หากเซเว่นคิดจะทำอะไร ร้านค้าใกล้ๆ แถบนั้นตายหมด นับมาตั้งแต่ร้านข้าวแกง ก็มีข้าวกล่องเวฟให้แป๊บเดียว เมนูเยอะอีกต่างหาก  กาแฟสดในเซเว่นก็มีแล้ว  หากคุณคิดจะทำซุ้มกาแฟสดลักษณะร้านน็อคดาวน์ก็ควรจะคิดถึงปัจจัยเสี่ยงตรงนี้ด้วยนะครับ อย่าไปตั้งใกล้เขาหากเลือกได้

ช่างตัดผม
                  เอาละมาถึงอาชีพตัดผม เลยละกันครับ ผมมองว่าหากคุณยึดอาชีพนี้  และใช้จ่ายตามฐานะผมว่าคุณอยู่ได้นานอีกเป็น 10 ปี เพราะอาชีพนี้ถ้าจะทำให้รวยเลยค่อนข้างยาก แต่อยู่ได้ไหม อยู่ได้ครับ  ดูจากราคาขั้นต่ำในการให้บริการลูกค้าแล้ว เช่น คุณตัดผมหัวละ 80 บาท  หากตั้งใจทำยอดเอาลูกค้าวันละ 10 คน ก็เป็นเงิน 800 บาท  เดือนนึงก็ 32,000 บาทนะครับ หรือจะคิดถัวเฉลี่ยต่อเดือนเอาซัก 20,000 บาท ก็มีความเป็นไปได้เยอะ
ช่างตัดผม
ส่วนการลงทุนนั้น เป็นการลงทุนครั้งเดียวจบ ซื้อเก้าอี้บาร์เบอร์ 1 ตัว ราคาประมาณ 6-7 พันบาท  ปัตตาเลี่ยนดีๆ ซักตัว ราคา 1 พัน – 2 พันบาท   กรรไกรสับ-ซอย ผ้าคลุมตัด  หมดแล้วครับ แค่นี้แหละครับการลงทุน หรือจะติดแอร์อีกซักตัว ก็ยังได้ พัฒนาฝีมือตามเทรนด์ทรงผมให้ทันในแต่ละยุค เมื่อลูกค้าพึงพอใจเขาจะกลับมาอีก และทำการตลาดแบบปากต่อปากให้กับเราเองครับ 
ยังไงการตัดผมของคนเราก็ต้องให้ช่างมาตัดให้นั่นแหละครับ แม้แต่คนที่เป็นช่างด้วยกันเองก็ยังต้องพึ่งช่างคนอื่นให้มาตัดให้เลย ส่วนตัวคุณเองลองคิดดูซิครับว่า คุณเคยจับกรรไกรขึ้นมาตัดผมเองคนเดียวเมื่อไหร่ ไม่มีใช่ไหมครับ ทุกครั้งที่อยากตัดผมต้องให้คนอื่นมาตัดให้

ช่างตัดผม

เจ้าปัตตาเลี่ยนตัวนี้แหละครับที่แม้แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกอย่าง ไอโฟน  เอาไปใช้ไม่ได้ มันต้องอยู่ในมือของช่างตัดผมเท่านั้น คุณลองคิดดูซิครับว่า ในไอโฟนมีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา ไฟฉาย  ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ สารพัดจะกล่าว แต่ไอโฟนตัดผมไม่ได้นะครับ นอกจากเขาจะเอาฟันปัตตาเลี่ยนประกอบเข้าไปกับตัวไอโฟน แล้วใครละจะซื้อ ผมก็ไม่ซื้อครับ  ให้ช่างใช้ปัตตาเลี่ยนตัดผมอย่างเดิมนะดีแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น