มันสำปะหลังเงินล้าน

มันสัมปะหลัง
อาชีพการเกษตรนี่แหละ สร้างรายได้เข้าประเทศให้กับคนได้มหาศาล เพราะคนเราจะวัดความรวยกัน ไม่ได้วัดที่การใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย แต่วัดกันที่ใครครอบครองทรัพย์สินได้มากกว่ากัน  คนมีที่ดินไว้ทำกิน ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ไม่ต้องไปรับจ้างใคร ทำมาหากินบนที่ดินที่ตนมี นี่แหละครับ ถือว่าเป็นคนรวย   ผมยกตัวอย่าง เจ้าสัวซีพี คุณธนินท์ เจียรวนนท์  จะเห็นว่าสินค้าในเครือซีพีทุกอย่างแทบจะเป็นสินค้าการเกษตรทั้งสิ้น แถมเครือซีพีก็ยังครอบครองตลาดด้านการบริโภคของคนไทยแบบเบ็ดเสร็จอีกต่างหาก หากวันนี้คุณกินผัดกระเพราหมูไข่ดาว  เนื้อหมูและไข่อาจจะไม่ได้มาจากซีพี แต่พริกกับ ใบกะเพราที่คุณกินนั้น ส่วนใหญ่ซื้อเมล็ดพันธุ์จากเครือซีพีมาปลูก    และผลิตเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ปลูกไว้บนที่ดินทั้งนั้น จริงไหมครับ หรือยกตัวอย่างไปไกลถึงต่างประเทศ เช่นประเทศญี่ปุ่น คนรวยอันดับสองของประเทศเขาก็คือ “เกษตรกร” จะเห็นว่าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเกือบทุกอย่างนั้นล้วนแล้วแต่มีคุณภาพทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่สินค้าการเกษตร จำพวก  ผัก หรือ ผลไม้ แถมแพงอีกหาก ผู้เขียนเคยเห็น (แต่ไม่ได้ซื้อ) มะเขือเทศนำเข้าจากญี่ปุ่นในห้างดังแห่งหนึ่ง เขาขายกล่องละ 200 บาท มีมะเขือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเหรียญห้าบาท อยู่แค่ 10 ลูก แพงไหมครับ ถ้าผมเผลอซื้อแล้วไปวางไว้ในครัว วันดีคืนดีแม่ผมคิดอยากจะกินส้มตำ แล้วเหลือบไปเห็นมะเขือเทศนั้นอยู่  แล้วจับเอาไปฝานใส่ส้มตำซัก 5 ลูก ส้มตำปูปลาร้าธรรมดาๆครกนั้นคงได้อัพราคาตัวเองขึ้นมาถึง ครกละ 130 บาทแน่ๆ ครับ ทีนี้ละแพงจริง!!
            ไม่เว้นแม้แต่คนไทย ที่ไปทำงานเมืองนอก เช่น อิสราเอล ,เกาหลี ฯลฯ  ร้อยละ 90 ไปรับจ้างงานทางด้านการเกษตรทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่า อาชีพทางการเกษตรนี้ไม่มีวันตาย มีแต่จะเติบโตขึ้น เราจึงไม่ต้องไปอายใครเขาหรอกครับ หากเราจะบอกว่า เราทำไร่ ทำสวน ของตัวเอง ไม่มีชุดยูนิฟอร์มของบริษัทดัง ห้างหรูใส่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเงินนะ
              
มันสัมปะหลัง
             เอาละครับมาพูดถึงเรื่องการปลูกมันสำปะหลัง โดยส่วนตัวผู้เขียนเองก็ได้ปลูกเองด้วย เพราะมองเห็นข้อดีหลายๆ ด้าน อย่างแรกที่มองเห็นก็คือ มันเหมือนกับเป็นการฝากเงินไว้ในดิน แล้วรอกินดอกเบี้ย หรือเรียกว่าทรัพย์ในดินก็ไม่ผิด การลงทุนนั้นไม่สูงมากนักแต่โอกาสในการเก็บเกี่ยวผลผลิตมีมากพอสมควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละคน  มันก็เหมือนทำธุรกิจทั่วไปนั่นแหละครับ เอาใจใส่สิ่งที่เราทำมากก็ได้รับผลตอบแทนมากเป็นธรรมดา  แต่การปลูกมันสำปะหลังไม่ถึงกับต้องดูแลมากเหนื่อยมาก แต่ก็ยังมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยว เพราะมันสำปะหลัง เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย ทนแล้งได้ดี ใส่ปุ๋ย พรวนดิน ถางหญ้า  2-3 เดือนต่อครั้ง ก็ยังได้ผลผลิตที่น่าพอใจ   นี่ก็คือข้อดีข้อที่ 2 ยังไงละครับ ก็คือ ไม่ต้องใช้การบริการจัดการมากนัก ส่วนสูตรหรือวิธีการปลูกนั้น ผู้เขียนไม่ขอกล่าวถึง เพราะมีกูรูในยูทูปมากมาย เขาจะสอนวิธีการปลูกให้ได้ผลผลิตเยอะๆ อยู่แล้ว  พ่วงด้วยโฆษณาขายปุ๋ย อันนี้ก็ไปเลือกดูเอาครับ ว่าชอบค่ายไหน
                ผมมีตาราง การคำนวณต้นทุน และกำไรง่าย ๆ ให้ดูดังนี้
มันสัมปะหลัง
              เห็นไหมละครับว่ารายได้ไม่เลวเลยทีเดียว  ทีนี้ลองเอา 510,000 หาร 12 เดือน ดูซิครับ เฉลี่ยแล้วเรามีเงินเดือนเยอะกว่าปริญญาตรีจบใหม่หรือยัง ?   นี่คือตารางคิดผลผลิตขึ้นต่ำในยูทูปบางคนทำได้ถึง 30 40 กิโลกรัมต่อต้นเลยก็มี แต่ผมยังไม่อยากให้คนที่ยังไม่เคยทำเอาไปถึงขึ้นมืออาชีพขนาดนั้น ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นแค่มือสมัครเล่นจะทดลองปลูกให้ได้ 3-5 กิโลกรัม บอกเลยไม่ยากเกินเอื้อม แค่นี้ก็ยังพอมีกำไรเหลือครับ ถ้าชอบในอาชีพนี้แล้วละก็ค่อยหาแหล่งพัฒนาศึกษาหาความรู้ว่าเราจะทำยังไงถึงจะได้ ซัก 10 ตัน 20 ตัน เหมือนคนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากครับ “สิ่งที่คนทำได้ คนก็ต้องทำได้เหมือนกัน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น